ถ้ามีคำพูดไหนที่จริงเสมอเป็นคำพูดว่า "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด" และมันเป็นคำพูดที่ตัวครูเองยึดและใช้ตลอดการทำงาน เพราะว่าอะไร เพราะว่าถ้าทำวันนี้ดีที่สุดแล้วก็หมายความว่าผลของความตั้งใจจะส่งผลไปยังพรุ่งนี้ได้เอง ในการทำงานครีเอทีฟ ต้องทำด้วยความสบายใจและมีความสุข งานจึงจะออกมาดี อย่างเช่นตอนนี้ทำงานภาคกลางคืน new life ถ้าขาดครีเอทีฟ ขาดความสุขที่จะทำขาดความคิดสร้างสรรค์ไม่มีประโยชน์ ครูทำงานครูทำหมดทุกตำแหน่งครูรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ผิดปกติหรือเปล่า เพราะครูระมัดระวังแล้วรีบแก้ไข
คนเรายิ่งมีทุกข์ ทุนคนมีไหม(ครูหัดมาถามพวกเรา..และเกือบจะพร้อมกันที่ตอบครูโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน ว่า..มีคะ/ครับ) คนเรายิ่งมีความทุกข์จะยิ่งรู้ว่าสุขเป็นอย่างไรเพราะอะไร เพราะใครที่ทุกข์ท้อให้ลองคิดแบบนี้ดูนะว่า ความสุขกำลังจะมาและครูก็คิดอย่างนี้เวลาที่ครูเผชิญกับความทุกข์ พอเราคิดได้อย่างนี้เพียงวินาทีสั้นๆที่มันออกมาจากความทุกข์ได้เราจะรู้สึกเพี้ยว.......สุขเหลือเกิน...มันโล่ง...สุขจริงๆแหละนี้เป็น step new life ที่ครูลำดับมา
สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากคือ ไม่ทำงานหนักเกินไป เพราะเป็นการตายแบบโดมิโน เป็นการตายแบบผ่อนส่ง ดูเหมือนรับผิดชอบนะในขณะที่เราทำงานหนัก แต่มันเพิ่มความเคลียดให้กับตัวเอง ความจริงแล้วมันคือ ขาดการวางแผนที่ดี งานอะไรก็สามารถจัดการได้ถ้าเรามีการวางแผนที่ดี
ก่อนการทำงานหรือเริ่มต้นสิ่งใหม่ ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ คน งาน อะไรก็ตามที่ใหม่เข้ามาให้บอกกับตนเองให้หายใจเข้าลึกๆ คิดถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้มา( ช่วงนี้มีพี่ๆเดินเข้าใหม่อีกหลายคนครูจึงทบทวนแล้วถามทุกคน) ครูได้พูดถึง คนเรายิ่งมีความทุกข์จะยิ่งรู้ว่า ความสุขเป็นเช่นไร มีความทุกข์ไหม หากเจอเรื่องทุกข์แล้วจะทำอย่างไรกันฮะหนู..
พี่หนูตอบว่า: ถ้ามีความทุกข์ผมจะหาสิ่งอื่นมากลบเกลื่อน
ครู : ใช่คนส่วนมากเป็นเช่นนั้นจริงๆนะอยู่เฉยๆไม่ได้อาจจะต้องกดโทรศัพท์คุยกับใครสักคน เดินเล่น หาอะไรทำ แต่ถามว่าสลัดหลุดไหม มันไม่หลุด ถ้าเราไม่ได้คิดหรือไตร่ตรองให้ดี อย่างครูเมื่อก่อนทำงานเป็นนักขาย ถูกปฏิเสธง่าย บางครั้งโดนสายตา คำปฏิเสธ อิจฉาริษยาหรืออะไรต่างๆ เมื่อก่อน จาแวมาก คือโดนนิดหน่อยครูก็ จมอยู่กับความทุกข์ แต่ถามว่า ณ ปัจจุบันครูหลุดมาตั้งนานแล้ว สมมติว่ามาทำ new life เจอคนที่เขาไม่เปิดและมีคำพูดให้เราต้องเสียหายถามว่าเมื่อก่อนยังแคร์ แต่ ถ้าฟังไปเรื่อยๆ รับข้อมูลเรื่อยๆ คนเรามนุษย์มันก็มีความรู้สึกกันบ้าง แต่เมื่อมีครูก็คิดต่อเพราะอะไร จนสุดท้ายมันก็คือคำตอบว่า...โอ..คำตอบนี้เราค้นหาเจอมาตั้งนานแล้ว ว่าน้ำลาย คำพูด ความคิด สายตาที่มันจิกันเหยียด หรือคำพูดอะไรที่มันก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่เราใส่ร้ายป้ายสีเรา นินทาต่างๆนานา ไอ้สิ่งเหล่านี้มันแปรเปลี่ยนเป็นอาหาร 3 มื้อให้ลูกเราไม่ได้หรอก มันแปรเปลี่ยนเป็นชีวิตดีๆ ในครอบครัวเรา พ่อ แม่ ลูก สิ่งเหล่านี้มันแปรเปลี่ยนไม่ได้หรอก และถ้าเรายึดติดคำพูดของคนเหล่านี้ กริยาท่าทางให้เราเห็น เราก็จะเอาตัวเองทุกข์ ทุกอย่างก็หยุด ไม่สามารถเดินไปได้มันเป็นแบบนี้ ฉะนั้นจึงบอกว่า "คนเรายิ่งทุกข์ จะยิ่งรู้ว่าความสุขเป็นอย่างไร"
พอเกิดกรณีเช่นนี้ ครูก็เฉยๆนะ แต่พอได้ฟังก็เริ่มเข้าใจในคนเหล่านั้นมากขึ้นว่าอ้อ..แค่นี้เหรอ พอครูกลับไปครูได้คิดว่าครูต้องระมัดระวังการทำงานให้มากขึ้น ครูมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น แล้วมันสุขจริงๆนะ อย่างทำครั้งนี้มันมีความสุขที่จะได้ทำครั้งแล้ว(โครงการปรับสมดุลกายจิต1) ส่วนตัวครูเองก็คิดว่าทำงานออกมาไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าประเมินให้ตัวเอง ครูให้แค่ 60 นะ พอกลับไปแล้วมีความสุขเพราะได้เห็นการทำงานของตัวเองไปอีกขั้นหนึ่ง และก็ทำให้ครั้งนี้มันทำให้มีความรู้สึกว่าอยากทำงานมากขึ้นเหมือนมันมีไฟมา spark อยากทำงาน คือเห็นสิ่งที่ท้าทาย เหมือนได้กลับไป back to the basic และตอนนี้ครูเห็นวิธีที่จะสกัดตรงจุดพวกเรา ได้มากที่สุดคือค้นพบยารักษาที่ตรงกับโรค
อย่างตู่...ตอนครูบอกว่าให้ดูรายการจับเข่าคุย(รายการทีวี) ตู่ถามครูว่า วันไหนคะ ครูตอบวันนี้ ช่องไหนคะ ช่องสาม กี่โมงคะ ห้าทุ่ม สรุปว่าไม่ได้ดู ครูก็สรุปได้ว่า อ้อ...ที่ไอ้ตู่มันเป็นแบบนี้ความจริงแล้วที่มันเรียนรู้อะไร หรือว่ารับบทอะไรดูเหมือนว่ามันมีลูกฮึดที่จะสู้ ที่จะทำหรือ active ต้วเองขึ้นมาได้ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เวลามันเจอปัญหาเข้ามาหนักๆ เข้าจริงๆ มันนั่งเฉยๆโดยที่ไม่พาตัวเอง คือเหมือนคนจมน้ำ พอถึงเวลาเหนื่อยมากๆ ก็ทิ้งตัวเองให้จมน้ำไป ลองคำนวณเวลาที่เหลือตั้งชั่วโมง แต่เราก็ไม่ทำอะไร เรานั่งเฉยๆเหมือนรอความตาย
พี่ตู่: ครูแต่ตู่ก็รู้สึกกระวนกระวายนะคะ
ครู: ใช่ แต่ตู่ก็ไม่ตัดสินใจจริงปะ! กี่ครั้งที่เราเป็นอย่างนี้ตลอดเวลาเราก็เป็นอย่างนี้ให้เขาดูถูก เพราะเราเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ครูจึงบอกว่า เหมือนเราตัดสินใจแต่จริงๆแล้วเรายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย ตู่บอกครู ครูคะตู่ตัดสินใจจะทำอย่างนั้น อย่างนี้ ตัดสินใจแล้วที่จะดูแลทีมงาน แต่ความจริงแล้วตู่ยังไม่เคยตัดสินใจอะไรเลยทุกวันนี้ตู่ก็ยังเป็นแบบนี้จริงไหม ( พี่ตู่นั่งเงียบ ดูเหมือนพี่เขากำลังทบทวนในสิ่งที่ครูชี้เห็นในความเป็นตัวตนของพี่เขา ...ทำให้ฉันมองย้อนมาที่ตัวเองบ้างว่ามีสิ่งใดบ้างที่ในชีวิตของฉัน ที่ปล่อยโอกาสต่างๆที่เข้ามาให้มันผ่านไปโดยไม่คว้าไว้เลย..มีเยอะเลยละ...สายน้ำ เวลา และโอกาส เหมือนที่ครูสอน มันย้อนกลับมาไม่ได้จริง
)
ปุ้ม...ถ้าเป็นครูนะ ถ้าน้องมันโทรมาบอกว่าพี่ปุ้มรู้จักคนเยอะช่วยหาลูกค้าให้หน่อย ครูจะไม่ว่าอะไรเขาเลย แต่ครูจะบอกเขาว่าถ้าจะทำอะไรพี่ก็ยินดีด้วยแต่ขอให้อย่างจริงๆจังๆและสำเร็จ เช่นวันนี้ จะทำอะไรก็ได้ จะทำงานอาชีพอะไรก็ได้พี่ยินดี ถ้าคิดจะทำแล้วคิดว่าประสบความสำเร็จ กว่าสิ่งอื่นๆ ทำชีวิตครอบครัวของน้องให้ดีขึ้น ทำไปเลย แต่ต้องทำให้ประสบความสำเร็จนะ คนเรามันทำได้หลายอย่าง หลายอาชีพจริง แต่สักอย่างได้ไหม ที่เลือกทำอย่างจริงๆจังๆ และประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ทำนั้นนิดนี่หน่อย พอเราไม่ประสบความสำเร็จก็โทษทุกอย่าง ถ้าตัดสินใจทำ ทำเลยน้อง แล้ววันหนึงเมื่อประสบความสำเร็จ พี่คนนี้จะเป็นคนแรกที่ไปแสดงความยินดีและดีใจกับน้องเป็นคนแรก แต่ถ้าวันนี้เลือกแล้ว สัญญานะว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จเอาอย่างเดียวแหละ ไม่ต้องทำหลายอย่าง
แม็ก เหมือนครูเคยบอกแม็กว่า แม้นวันนี้แม็กจะทำงาน ทำให้ตาย ทำงานที่โรงพยาบาล แม็กทุ่มแท เอางานกลับไปบ้าน แต่ถามว่าสิ้นเดือนแม็กได้เงินเดิอนเท่าไหร่ เท่าเดืม เราก็รู้อยู่แล้วว่ารายรับเท่าไหร่จริงปะ! เราต้อง manned (จัดการ)เวลาตัวเอง วันนี้มีหลายๆอย่างที่ครูอยากทำมากมายเราต้องดูก่อนว่าเรามีแรงแค่ไหน แค่ไหน แค่นั้น ไม่ใช่ว่ากลับไปบ้านเวลาของครอบครัว ลูก ผัว ไม่ได้ เขาคิด ot ให้หรือเปล่า บางครั้งครูยังต้อง beark ตัวเอง ครูคิดสารพันครูต้องบอก พอๆมีแรงแค่นี้ (แล้วทุกคนก็เงียบไปพักนึง เหมือนกับว่าทุกคนต่างทบทวนตนเอง ถ้ามีใครสักคนที่ครูชี้ให้เห็น มันเหมือนลำแสงที่ส่องออกมากระทบเจ้าตัวแล้วลอดผ่านไปยังลูกศิษย์อีกหลายคน สักพักครูก็พูดต่อ)
ความเชื่อและความตั้งใจเป็นส่วนผสมที่สำคัญถ้าเรามีทั้ง 2 อย่าง เราก็ผ่านไปได้ ครูทำงานครูเชื่อในสิ่งที่ครูทำ หนึ่งครูตั้งใจแล้วว่า ครูจะทำและเชื่อเราต้องทำได้ เราผ่านมันไปได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่า สองสิ่งนี้แล้ว ตั้งแต่สลัดทุกข์ ทุกข์คืออะไร ความกังวลสงสัย กล้าๆกลัวๆ กลัวผิดกลัวถูก วางแผน จนถึงพื้นฐานและความตั้งใจว่าเราเชื่อแล้วก็ทำทันที
คำว่า "เกียรติยศ" คืออะไร ในความคิดของแต่ะละคน คำนี้ ได้ยินมานานแล้ว (ครูถามทุกคน....ว่าเกียรติยศคืออะไร
พี่หนู : คือสิ่งที่ผมภาคภูมิใจ และสิ่งที่คนอื่นมองมาแล้วผมทำดีที่สุดแล้ว
พี่ไก่ มันคือศักดิ์ศรี (ตัวกูของกู ) ถ้าใครสักคนมาชี้หน้าด่าผมมันไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ยอมรับเหตุผล ทำในสิ่งที่มันดีที่สุดแม้นมันไม่ได้ดีในสายตาคนอื่น คือมันคืกศักดิ์ศรีที่ผมทำดีที่สุดนั่นคือเกียรติยศผของผมครับครู
(ครูได้หันไปถามพี่ๆหลายคน)
สำหรับครูนะ ก่อนคือความยิ่งทะนง องอาจในตัวเรา แต่ปัจจุบันคือตัวเรามีค่า ที่ได้มาจากการทำงานอย่างหนักและ บังเกิดผลจากงานที่เราทำ ทำให้คนอื่นยอมรับ
ความภาคภูมิใจ คือการที่ความสำเร็จเกิดขึ้นกับสิ่งที่เราทำอย่างหนัก กลายเป็นภาคภูมิใจมากเข้า เข้าขั้นเป็นเกียรติยศ
จากคำสอนของครูดวงดีได้เรียบเรียงใหม่จนได้เป็นกุญแจชีวิต key of life ที่สามารถใช้ในการดำรงชีวิตในขณะ ให้สามารถเผชิญกับทุกเรื่อง และทำออกมาให้ดีที่สุดในทุกๆครั้ง ศิษย์ของครูล้วนหลากหลายอาชีพ เหมือนกับว่าแต่ละคนมีหัวศรที่วิ่งไปในแต่ละทิศทางซึ่งเป็นทิศในวิถีชีวิตของแต่ละคน ทุกคนมีความสุขมากขึ้น มีเป้าหมายที่จะทำชีวิตให้สำเร็จมากขึ้นในทิศของตัวเอง
บทสรุปของ key of life
ถ้ามีคำพูดไหนที่เป็นจริงเสมอคงเป็น " ทำวันนี้ให้ดีที่สุด " และเป็นคำที่ทุกคนควรยึดใช้ให้ตลอดในการทำงานเพราะถ้าทำวันนี้ดี ผลของความตั้งใจจะส่งต่อไปถึงวันพรุ่งนี้ได้เอง
ก่อนการทำงานหรือเริ่มต้นสิ่งใหม่ บอกตัวเองให้หายใจลึกๆ คิดถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้มา จากนั้นปล่อยทุกอย่างให้สบายที่สุด เพราะเมื่อพี้นฐานแน่นสิ่งที่ทำก็ง่ายไปกว่าครึ่ง
ความเชื่อและความตั้งใจ เป็นส่วนผสมที่สำคัญ ถ้ามีทั้งสองอย่างอยู่ในตัวเองต่อให้เจอเรื่องยากเท่าไร เราก็จะสามารถผ่านมันไปได้
ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ต้องได้ คนเราสองมือสองเท้าเท่ากัน ทำไมจะทำไม่ได้ ไม่ว่าจะทำได้มากหรือน้อย แต่ก็ต้องได้อย่าบอกว่าไม่ได้ คนเราถ้ามีความมุ่งมั่นซะอย่างเรื่องยากแค่ไหนก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายในพริบตา
มานะต่อสู้ ไม่จำเป็นต้องเร่งให้ถึงจุดหมายเร็วๆ จะเหนื่อยเสียก่อน ช้าๆ แต่ระหว่างทางต้องใช้สมอง ไหวพริบ และพยายามพยุงไปให้ถึงจุดหมายให้ได้ "คนเราแพ้ได้ แต่อย่ายอมแพ้"
สิ่งที่ต้องระมัดระวังให้มากคือ " ไม่ทำงานหนักเกินไป " เพราะเป็นการตายแบบโดมิโน ทุกอย่างส่งผลกระทบหมดทั้งสุขภาพและการทำงาน ซึ่งดูเหมือนรับผิดชอบแต่ความจริงคือ ขาดการวางแผนที่ดี ในการทำงาน ครีเอทีฟ(Creative) ต้องทำด้วยความสบายใจและมีความสุข งานจึงจะออกมาดี
คนเรานะประสพความสำเร็จได้นอกจากวิชาความรู้แล้ว จะต้องมี "คุณธรรม" เป็ฯเครื่องนำชีวิตเพราะฉะนั้นจุดมุ่งหมายของการให้การศึกษา ไม่ใช่ให้ความรู้แต่เพียงอย่าง แต่ต้องเป็นการให้ "ความรู้คู่ไปกับคุณธรรม"ด้วย
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ชาติกำเนิด หน้าที่การงาน ฐานะ ไม่ใช่เครื่องบอกวัดความสูงต่ำของคนได้ มีแต่ความดีเลวที่ตนเองกระทำเท่านั้น ที่เป็นเครื่องชี้วัด
ก่อนจบบทนี้ดวงดีขอทิ้งท้ายด้วยบทกลอนที่รวบรวมจากการเรียนรู้
วันเวลา ผ่านไป ไม่อาจหวน ศิษย์นี้ยัง ทบทวน และฝึกฝน
ความรู้ ที่ได้มา พัฒนาตน เข้าฝึกฝน ด้วยขบวนการ งานของครู
คำของครู ดังก้อง อยู่ในจิต ทุกชีวิต สุขทุกข์ ต่างกันหนอ
หากทุกข์มาก ให้ลองคิด สุขมารอ ไม่นานหนอ รู้สึก...เพี้ยว...สุขเหลือเกิน
ความเชื่อ และตั้งใจ คือสำคัญ เจอเรื่องหนัก ยากเท่าไหร่ ก็ไม่ถอย
ทำให้ผ่าน มาได้ สมดังคอย ทุกข์นั้นลอย หายไป ไม่รู้ตัว
เกียรติยศ คืออะไร ครูเอยถาม ทุกคนต่าง ตอบครู ตามเหตุผล
เกียรติยศ ต่างกัน รู้ตัวตน คุณค่าคน แม้จะยาก ก็จะทำ
ทำวันนี้ ให้ดี ที่สุดนะ นี้คือสัตย์ ที่ครู คงยึดมั่น
ทำวันนี้ ดีที่สุด ทุกทุกวัน ส่งให้วัน พรุ่งนี้ ได้ดีเอง
บทของครู พร่ำบอกศิษย์ อยู่เป็นนิจ ให้พิชิต ทำไม่ได้ อย่าไปสน
ตัดออกไป จากดวงจิต ที่วกวน สองมือเท้า เท่าทุกคน ทำได้เอง
คนเราแพ้ได้ แต่ขอ อย่ายอมแพ้ ค่อยๆแก้ ไม่จำเป็น ต้องเร่งหมาย
เหนื่อยเสียก่อน ท้อเสียก่อน กระวนกระวาย ถ้าไม่ตาย ความสำเร็จ ไม่ไกลเกิน
อีกคำสอน ของครู คือความอยาก ทำให้ยาก ในชีวิต เป็นหนักหนา
ถมเท่าไหร่ ไม่มีเต็ม แสนทรมาน ทุกข์ยากมา ดิ้นรนไป เพราะอยากมี
ทำให้มี ดับความอยาก ใช่ว่าถูก เหมือนกับผูก ชีวิตไว้ บนปลายไม้
ปาดน้ำตา เสียเวลา มามากมาย อยากจะได้ ดับความทุกข์ ไม่ถูกทาง
คำของครู พูดทิ้งท้าย ให้เตือนจิต ศิษย์สำนึก คุณของครู ไม่รู้หาย
พันธนาการ ที่พันตัว มามากมาย ปลดออกได้ เพราะมือครู ผู้นี้เอย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น